
ฐบาลไทยได้ตอบรับเข้าร่วมงาน The World Exposition Shanghai China 2010 โดยมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นหน่วยงานหลักในการเข้าร่วมงาน ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 ตุลาคม 2553 โดยมีหัวข้อหลัก (Theme)ในการจัดแสดง คือ “Better City, Better Life”
การจัดงาน World Expo ในครั้งนี้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศเจ้าภาพประสงค์จะให้โลกบันทึกไว้ว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบน เนื้อที่ 5.28 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 3,000 ไร่ ของนครเซี่ยงไฮ้ โดยคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ที่จะเข้าชมงานนี้สูงถึง 70 ล้านคน
แนวคิดในการเข้าร่วมงานมหกรรมโลกของประเทศไทย นําเสนอในหัวข้อ “
Thainess: Sustainable Ways of Life : ความเป็นไทย วิถีแห่งความยั่งยืนของชีวิต” ด้วยการจัดแสดงนิทรรศการในอาคารศาลาไทยรวมทั้งจัดการแสดงด้านวัฒนธรรมต่างๆ ในพื้นที่ 3,117 ตารางเมตร
สัญลักษณ์ของอาคารศาลาไทย (Thailand Pavilion Emblem)
ออกแบบเป็นรูปเส้นสาย “ลายกนก” แม่ลายพื้นฐานที่สำคัญในจิตรกรรมไทย อันเป็นอีกภูมิปัญญาหนึ่งของศิลปินไทยที่มีมาแต่โบราณ เปรียบได้กับลายต่างๆ ของธรรมชาติ เช่น ใบไม้ สายน้ำ เปลวไฟ ฯลฯ นำมาบรรจงสร้างในงานจิตรกรรมไทย
ความหมายที่ตรงตัวของคําว่า “กนก” หมายถึง “ลวดลายไทย” แต่อีกความหมายหนึ่ง คือ “ทอง” กำหนดใช้สีน้ำตาล-ทองของ “กนก” เป็นส่วนหนึ่งของสัญลักษณ์อาคารศาลาไทย เปรียบเสมือนผืนแผ่นดินทองของไทยอันอุดมสมบูรณ์ ในรายละเอียดภายในกนกนั้น จะประกอบด้วยสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดที่หลากหลาย นำมาร้อยเรียงผสมผสานให้เป็นหนึ่งเดียว สื่อถึงความหมายของความหลากหลายทางเชื้อชาติ เปรียบเสมือนการรวมกันเป็นหนึ่งของผู้คนชาวไทยเชื้อชาติต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินไทย
สัญลักษณ์ของ “กนก” ออกแบบให้มีปลายยอดมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน ดั่งความสามัคคี ความกลมเกลียวและความมุ่งมั่น ที่จะร่วมกันพัฒนาประเทศของชนทุกเชื้อชาติไปสู่ทิศทางเดียวกัน
“กนก” ที่กำหนดให้ เป็นในตราสัญลักษณ์ของอาคารศาลาไทยครั้งนี้ มีสัณฐานเดียวกับเลข ๑ ของไทย ถูกจัดวางไว้ด้านบนของชื่อ “ประเทศไทย” ที่เขียนด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ เพื่อผสมผสานความเป็นสากลเข้ากับเอกลักษณ์ความเป็นไทย และอีกนัยหนึ่งคือ ความเป็นหนึ่งเดียวกันของชนในชาติ

สัญลักษณ์นำโชคของอาคารศาลาไทย (Mascot)
ได้รับแรงบันดาลใจจากประติมากรรมยักษ์ไทย “อินทรชิต”
Intarachit (Indrajit) ที่ยืนอยู่ด้านหน้าอาคารศาลาไทย เป็นรูปแบบของตัวการ์ตูนยักษ์ตัวน้อย ชื่อว่า “ไท” ซึ่ง “ยักษ์ไท” นี้มีบุคลิกลักษณะน่ารัก น่าเอ็นดู แฝงด้วยเสน่ห์กริยาอันสุภาพอ่อนน้อมแบบไทย เพื่อสร้างความสุขและความสนุกสนานให้กับผู้เข้าชมนิทรรศการ
"
ไท" คือชื่อของสัญลักษณ์นำโชคของอาคารศาลาไทย หมายถึง " ผู้เป็นใหญ่ " และยังออกเสียงเหมือนกับคำว่า "ไทย" ซึ่งหมายถึง "ชนเชื้อชาติไทย" "ความมีอิสระ" และ "ความไม่เป็นทาส"
"
ยักษ์ไท" เปรียบเสมือนกับประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศเอกราช ผู้คนมีความอิสระทั้งกายและจิตใจ คนไทยมีจิตใจดี มีความสุข มีน้ำใจ เต็มไปด้วยความน่ารัก และรอยยิ้มอันสดใส พร้อมที่จะเผื่อแผ่มิตรภาพให้แก่มวลมนุษยชาติ
สีเขียว หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ของผืนแผ่นดินไทย ดวงตากลมโตแต่เรียวรี เปรียบเสมือนดวงตาของคนไทย ที่มุ่งมั่น และแฝงด้วยความเอื้ออาทร
รอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มสยามตามที่คนไทยได้รับการขนานนามไว้ เป็นยิ้มที่เปี่ยมด้วยความจริงใจแสดงถึงความสุข และความเป็นมิตรที่พร้อมมอบให้แก่เพื่อนร่วมโลก
กระบองใหญ่ที่ถือ เป็นเหมือนกับกระบองวิเศษ สามารถเปลี่ยนรูปทรงเป็นสิ่งต่างๆได้ มีอิทธิฤทธิ์ในการเนรมิตความสุข และความฝันให้สมหวัง